ปี 1933 กาเรธ โจนส์ เป็นชายหนุ่มนักหนังสือพิมพ์ชาวเวลช์ผู้ทะเยอทะยาน ผู้ซึ่งมีชื่อเสียงจากการตีพิมพ์รายงานข่าวซึ่งตัวเขาเองเป็นผู้สื่อข่าวชาวต่างชาติคนแรกที่มีโอกาสเดินทางด้วยเครื่องบินกับท่านผู้นำฮิตเล่อร์ ขณะนั้นเขาทำงานเป็นที่ปรึกษาให้กับลอยด์ จอร็จ ตอนนี้เขากำลังหาโอกาสตีพิมพ์ข่าวใหญ่ชิ้นต่อไป ช
ปี 1933 กาเรธ โจนส์ เป็นชายหนุ่มนักหนังสือพิมพ์ชาวเวลช์ผู้ทะเยอทะยาน ผู้ซึ่งมีชื่อเสียงจากการตีพิมพ์รายงานข่าวซึ่งตัวเขาเองเป็นผู้สื่อข่าวชาวต่างชาติคนแรกที่มีโอกาสเดินทางด้วยเครื่องบินกับท่านผู้นำฮิตเล่อร์ ขณะนั้นเขาทำงานเป็นที่ปรึกษาให้กับลอยด์ จอร็จ ตอนนี้เขากำลังหาโอกาสตีพิมพ์ข่าวใหญ่ชิ้นต่อไป ช่วงนั้นข่าวดังๆเต็มไปด้วยข่าวเกี่ยวกับลัทธิ "ยูโทเปีย" ในสหภาพโซเวียต และโจนส์ก็กำลังฉงนสนเท่ห์กับการที่สตาลินหางบประมาณมาอุดหนุนการพัฒนาประเทศสหภาพโซเวียตให้ทันสมัยได้อย่างไร
เมื่อได้ตัดสินใจที่จะทิ้งตำแหน่งทางราชการ โจนส์ตัดสินใจเดินทางไปมอสโคว์ เพื่อรับการสัมภาษณ์โดยตัวผู้นำสตาลินเอง ที่นั่นเขาได้พบกับ เอด้า บรู๊คส์ ในบทของผู้สื่อข่าวชาวอังกฤษซึ่งทำงานอยู่ในมอสโคว์ ผู้ซึ่งเปิดเผยความเป็นจริงเบื้องหลังที่คณะผู้ปกครองปกปิดไว้โดยใช้การควบคุมด้วยความรุนแรง เขาได้ยินเสียงเรื่องที่รัฐบาลสร้างความยากจน และปกปิดไว้อย่างระมัดระวังโดยองค์กรตรวจสอบของโซเวียต โจนส์หลบหลีกเจ้าหน้าที่และเดินทางอย่างลับๆไปรัฐยูเครน ที่ซึ่งเขาพบเห็นหลักฐานสภาพอันแร้นแค้นที่รัฐจงใจสร้างความอดอยาก คนนับล้านถูกทิ้งให้หิวโหย ในขณะที่ธัญญาหารถูกส่งออกขายต่างประเทศเพื่อนำเงินมาอุดหนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมของจัดวรรดิ์โซเวียต
เมื่อถูกส่งตัวกลับไปลอนดอน โจนส์ได้ตีพิมพ์บทความชอ้นหนึ่งเพื่อเปิดเผยสภาพอันน่าสยดสยองที่เขาไปประสบมา แต่ความอดอยากนั้นก็ถูกปฏิเสธโดยหน่วยข่าวตะวันตกในมอสโคว์ ซึ่งทั้งหมดถูกกดดันจากเครมลิน รวมทั้งผู้สื่อข่าวรางวัลพูลิตเซอร์ วอลเตอร์ ดูแรนตี้ ท่ามกลางการข่มขู่เอาชีวิตที่เพิ่มสูงขึ้นทุกขณะ โจนส์ต้องต่อสู้เพื่อแสดงความจริง และเขาก็ได้พบกับนักประพันธ์หนุ่มคนหนึ่งชื่อ จอร์จ ออร์เวลล์, โจนส์จึงแบ่งปันสิ่งที่เขาพบเห็นมา ซึ่งช่วยเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดนวนิยายประชดประชันสังคมกระฉ่อนโลก Animal Farm
;?>)
;?>)
