เรื่องราวของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี ในทุกช่วงวัย โดยในช่วงวัยเด็กท่านก็เหมือนเด็กเล็กทั่วไปที่รักสนุก ชอบวิ่งเล่นกับเพื่อนแต่ต่างกันตรงที่ท่านเป็นเด็กที่มีจิตใจโอบอ้อมอารี ท่านฉายแววในการเป็นคนที่ใฝ่เรียนรู้ ร่ำร้องจะเรียนหนังสือจนแม่ของท่านต้องพาไปฝากไว้กับ หลวงตาแก้ว ที่เป็นเสมือนครูคนแ
เรื่องราวของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี ในทุกช่วงวัย โดยในช่วงวัยเด็กท่านก็เหมือนเด็กเล็กทั่วไปที่รักสนุก ชอบวิ่งเล่นกับเพื่อนแต่ต่างกันตรงที่ท่านเป็นเด็กที่มีจิตใจโอบอ้อมอารี ท่านฉายแววในการเป็นคนที่ใฝ่เรียนรู้ ร่ำร้องจะเรียนหนังสือจนแม่ของท่านต้องพาไปฝากไว้กับ หลวงตาแก้ว ที่เป็นเสมือนครูคนแรกของท่าน เมื่ออายุเติบโตจนครบบวชเณรท่านก็ตัดสินใจที่จะบวชเป็นสามเณรอย่างจริงจัง แม้ว่าแม่ของท่านยังรักยังเป็นห่วง ท่านก็ยืนยันที่จะบวชเรียนจนโยมแม่ต้องตามใจ ท่านบวชต่อจนได้เป็น พระโต และได้ออกธุดงค์เรียนรู้วิชาอาคมต่างๆ จาก ขรัวตาแสง อาจารย์อีกคนหนึ่ง ขณะเดียวกันก็ได้เรียนรู้ชีวิตทางโลกผ่านเรื่องราวความรักของ มาลัย พัด และ ช้อย ที่ก่อเรื่องราวความรักสามเศร้าทำให้ท่านได้ตระหนักถึงสัจธรรมทางโลกอย่างแท้จริง จนถึงช่วงปัจฉิมวัยของ ขรัวโต ท่านเป็นพระที่อารมณ์ดี จิตใจดี มองโลกในแง่ดี มีอารมณ์ขัน ท่านนำธรรมะมาสอนประชาชนด้วยถ้อยคำที่ฟังง่ายๆ แต่คมคาย แฝงไปด้วยปรัชญาธรรมะ ทำให้พุทธศาสนิกชนชาวไทยเคารพนับถือว่าท่านเป็นอมตะเถราจารย์รูปหนึ่งของเมืองไทย ที่มีผู้คนนับถือเป็นจำนวนมากมาจนถึงปัจจุบัน
;?>)
;?>)
